อาคารเหล็กกึ่งสำเร็จรูป เป็นระบบวิศวกรรมก่อสร้างที่สามารถลดต้นทุนในภาพรวม ลดระยะเวลาในการก่อสร้างและลดแรงงานคน ซึ่งส่งผลให้ช่วยให้เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น การก่อสร้างที่ประหยัดและมีความรวดเร็วย่อมเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณามากกว่า อีกทั้งยังมีการออกแบบอาคารตามลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย เช่น โรงงาน โกดังสินค้า สร้างคลังสินค้า ห้างสรรพสินค้า ตลาด โรงยิม สนามกีฬา โรงเก็บเครื่องบิน โรงซ่อมบำรุง หอประชุม ฯลฯ
บริษัทรับสร้างตึกสร้างโกดังขอนแก่น
รับสร้างตึกสร้างโกดังขอนแก่น
รับสร้างโกดังขอนแก่น
สร้างโกดังขนาดเล็กขอนแก่น
สร้างโรงงานขนาดเล็กขอนแก่น
สร้างโกดังออฟฟิศขอนแก่น
รับสร้างโกดังขนาดเล็กขอนแก่น
สร้างโกดังราคาถูกขอนแก่น
โกดังน็อคดาวน์ขอนแก่น
ทำโกดังขอนแก่น
รับสร้างโกดังสําเร็จรูปขอนแก่น
รับสร้างโกดัง ราคาถูกขอนแก่น
รับสร้าโกดังโรงงานขอนแก่น
ก่อสร้างโกดังขอนแก่น
รับเหมาสร้างโกดังขอนแก่น
รับสร้างตึกขอนแก่น
สร้างตึก 3 ชั้นขอนแก่น
ติดต่อใช้บริการ
ต่อเติมบ้าน โครงหลังคา กันสาดหน้าบ้าน ต่อเติมห้องครัว ทำรั้วประตูสแตนเลส กระจกอลูมิเนียม รางน้ำฝน สร้างบ้าน รีโนเวทบ้าน บิ้วอิน ตกแต่ง
ผ้าม่าน ฉากกั้นห้อง




การบ่มคอนกรีต การทำให้คอนกรีตที่แห้งแข็งดีแล้วอยู่ในความชื้นตลอดเวลาเพื่อให้คอนกรีตดูดซับน้ำเข้าไปจนเกิดการอิ่มตัว คอนกรีตที่มีคุณภาพและแข็งตัวดีต้องผ่านการบ่มอย่างน้อย 14 วันเพื่อให้คอนกรีตไม่แตกร้าวง่าย กรรมวิธีในการบ่มคอนกรีตอาจจะมีวิธีดังนี้
นำกระสอบป่านมาปิดหรือห่อหุ้มคอนกรีตให้มิดจากนั้นหมั่นรดน้ำให้เปียกชุ่มตลอดเวลาอย่าปล่อยให้แห้ง
ทำการบ่มในระยะเวลา 14 วันอาจไม่ต้องถอดแบบไม้เพราะแบบไม้ถือเป็นเครื่องป้องกันความร้อนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
กรณีที่เทคอนกรีตเป็นพื้น ถนน อาจใช้ดินเหนียวกั้นขังน้ำไว้แทนการบ่มด้วยกระสอบป่าน ถ้าพื้นที่ในการเทคอนกรีตใหญ่มากอาจเลือกใช้แกลบหรือขี้เลื่อยถมปิดพื้นนั้นแล้วรดน้ำให้ชุ่มก็ได้ ควรใช้พลาสติกคลุมพื้นคอนกรีตให้มิดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกได้ง่าย ถ้าสิ่งปลูกสร้างนั้นไม่สามารถใช้กระสอบหุ้มหรือขังน้ำได้ก็ให้ใช้วิธีการรดน้ำทุกวันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งก็ได้เช่นกันและทำติดต่อกันเป็นเวลา 14 วัน
ระยะเวลาในการบ่มคอนกรีต
ปัจจุบันนิยมใช้คอนกรีตผสมเสร็จอย่างแพร่หลายเพราะไม่ต้องยุ่งยากผสมปูนเองและพี้นที่ก่อสร้างในปัจจุบันมีพื้นที่ที่แคบไม่สะดวกในการผสมปูนเองรวมทั้งงานก่อสร้างก็มีขนาดใหญ่ต้องใช้คอนกรีตคราวละมาก ๆ คอนกรีตผสมเสร็จจึงเป็นตัวเลือกที่สะดวกในการก่อสร้าง แต่คอนกรีตผสมเสร็จนั้นจะต้อมได้มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ. ตามมาตรฐาน ASTM เพื่อรักษาคุณภาพของสิ่งปลูกสร้าง และให้เกิดความปลอดภัยต่อการใช้งานมากที่สุด
เหล็ก (Iron) นับเป็นวัสดุที่สำคัญสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ในปัจจุบันเหล็กยังมีความสำคัญแทบทุกด้าน ตั้งแต่การก่อสร้างอาคาร ถนน รางรถไฟ หรือแม้แต่ทางเรือ เหล็กก็ยังเป็นวัสดุสำคัญ เหล็กสามารถแบ่งได้ตามการใช้งานดังต่อไปนี้
เหล็กพิก (Pig Iron) เหล็กที่ได้มาจากเตาหลอมแต่เหล็ก จะมีธาตุและมีคาร์บอน ซิลิคอนและฟอสฟอรัส และกำมะถัน ตามปริมาณเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด โดยเหล็กพิกนี้จะใช้สำหรับงานหล่อในวงการอุตสาหกรรม
เหล็กเหนียว (Wrought Iron) เหล็กที่มีส่วนผสมจากเหล็กบริสุทธิ์และตะกรันเศษโลหะจากการถลุงแร่ จะใช้ในงานโครงสร้าง เช่น เสา คาน คุณสมบัติของเหล็กเหนียว จะมีความทนทานต่อการเกิดสนิมได้ดี เชื่อมง่าย ดัดงอง่าย และเคลือบผิวได้ง่ายอีกด้วย
เหล็กหล่อ (Cast Iron) เหล็กที่ผสมแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 6 ชนิด เช่น เหล็ก คาร์บอน ซิลิคอน แมงกานีส ฟอสฟอรัส และกำมะถัน เป็นต้น ปัจจุบันยังได้มีการเติมสารอื่น ๆ ลงในเหล็กหล่อเพื่อให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ความแข็ง และ กำลัง เป็นต้น มักจะถูกนำไปใช้ในงานที่ไม่ต้องการให้เหล็กทำปฏิกิริยากับสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เกิดประกายไฟเพื่อป้องกันไม่ให้เหล็กเป็นต้นเหตุของประกายไฟ
เหล็กกล้า (Steel Iron) เหล็กที่มีส่วนผสมของแร่เหล็ก คาร์บอน และแร่ธาตุอื่น ๆ และนิยมนำไปแปรรูปให้ได้ลักษณะตามที่ต้องการ เช่น การรีด การพับ เป็นต้น
เหล็กรูปพรรณ การนำเหล็กมาแปรรูปให้มีรูปร่างและขนาดต่างๆ ตามที่ต้องการใช้งานมีการควบคุมมาตรฐานการผลิตเหล็กรูปพรรณตามมาตรฐาน มอก. 116-2527
เหล็กเสริมคอนกรีต เหล็กเหนียวที่ผลิตตามมาตรฐาน มอก. 20-2517 มีผิวเรียบ ชั้น SR 24 ความยาวอยู่ที่ 10 – 12 เมตร เหล็กเสริมคอนกรีตทุกเส้นจะมีอักษรย่อที่เหล็กว่า “บลส” หรือ “บกส” อักษรย่อนี้เป็นเพียงตัวย่อของบริษัทผู้ผลิต เช่น บลส มาจาก บริษัท เหล็กสยาม (2001) จำกัด ส่วน บกส จากบริษัท เหล็กก่อสร้างสยาม จำกัด เป็นต้น
เหล็กเส้นกลมชนิดรีดซ้ำ
เหล็กที่มีมาตรฐานควบคุมคุณภาพและการผลิต มอก.211-2520 เรียกว่า “เหล็กเส้นรีดซ้ำ” เป็นเหล็กกล้าละมุนที่จัดอยู่ในจำพวกเหล็กกล้าที่มีธาตุคาร์บอนอยู่แบบธรรมดา เพื่อใช้เสริมคอนกรีตในงานก่อสร้างทำขึ้นจากเศษเหล็กเฉพาะที่ได้จากเข็มพืด และเหล็กแผ่นต่อเรือ ต้องเป็นเศษเหล็กแผ่นหรือเหล็กรูปหน้าตัดต่าง ๆ ที่ทำขึ้นมาใช้ในงานก่อสร้างการรีดให้เป็นเส้นวงกลมขณะที่ร้อนเหล็กชนิดนี้ใช้สัญญลักษณ์ SRR 24 ขนาดและน้ำหนักเหล็กเส้นกลมเสริมคอนกรีตชนิดเหล็กรีดซ้ำ
เหล็กข้ออ้อย
เป็นเหล็กตามมาตรฐาน มอก.24-2527 ตามที่ สมอ. กำหนด มีลักษณะเป็นปุ่มสันที่ผิวเหล็กเป็นระยะเพื่อให้สามารถจับตัวกับคอนกรีตได้ดีและมีแรงยึดกับคอนกรีตสูง ทำให้สะดวกในงานก่อสร้างเพราะไม่จำเป็นต้องงอเหล็กในการทำโครงสร้างเสริมเหล็ก เหล็กจะมีชั้นคุณภาพที่ SD30, SD40, SD50 และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 10 – 32 มิลลิเมตร และมีขนาดความยาว 10 – 12 เมตร

สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่น
แหล่งท่องเที่ยวในขอนแก่นแยกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
แหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี
- ศาลหลักเมืองขอนแก่น : เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวขอนแก่น ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาสุขใจ ถนนเทพารักษ์ หน้าสำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น ท่านเจ้าคุณปู่พระราชสารธรรมมุนีและหลวงธุรนัยพินิจ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้นำหลักศิลาจารึกมาจากโบราณสถานในท้องที่อำเภอชุมแพมาประกอบพิธีตามแนวทางพระพุทธศาสนาทำเป็นหลักเมืองเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2499 ต่อมาเมื่อ ปี 2549 เทศบาลนครขอนแก่น ได้ทำการบูรณะศาลหลักเมืองขอนแก่น ตามโครงการบูรณะพัฒนาปฏิสังขรณ์ศาลหลักเมืองและในวโรกาสมหามงคลสมัยเพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา โดยผลการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างวิธีพิเศษ ได้ตกลงว่าจ้าง หจก.แก่นชาญกิจวิศวกรรม มาดำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จและมีการฉลองสมโภชศาลหลักเมืองขอนแก่น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 สิ้นค่าก่อสร้างกว่า 54 ล้านบาท ศาลหลักเมืองขอนแก่นที่ปรับปรุงใหม่นั้น อยู่ ณ บริเวณจุดเดิม ลักษณะตัวอาคารมีศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ ทรวดทรงและส่วนประกอบงานศิลป์เป็นการอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมที่สำคัญของ ท้องถิ่นอีสาน ขนาดและรูปทรงเป็นเป็นอาคารโถงจัตุรมุข กว้างขวางโอ่โถงกว่าของเดิมมาก โดยมีขนาดตัวอาคาร 13 x 13 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมีพื้นที่ภายในเป็นห้องโถงรวม 73 ตารางเมตร ย่อมุมตัวอาคารโดยรอบมีระเบียงยื่นทั้ง 4 ด้าน ความสูงจากพื้นลานรอบอาคารถึงถึงยอดฉัตรทองคำรวม 27.50 เมตร หลังคาเป็นทรงจั่วจัตุรมุขหลังคาซ้อน 3 ชั้น และชั้นเครื่องยอดเป็นรูปเจดีย์ศิลปะพื้นเมืองอีสาน สัณฐานเป็นเจดีย์จำลองจากองค์พระธาตุขามแก่น
- พระมหาธาตุแก่นนคร: ตั้งอยู่ภายในวัดหนองแวงพระอารามหลวง ถนนกลางเมือง เป็นศิลปะสมัยทวารวดีผสมผสานศิลปะอินโดจีน รูปทรงแบบชาวอีสานตากแห มี 9 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีการตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลัก และภาพเขียนอย่างงดงาม เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวขอนแก่น และเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพเมืองขอนแก่น
- อนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์: ตั้งอยู่ที่สวน เจ.ซี. ถนนรอบบึง พระนครศรีบริรักษ์หรือท้าวเพี้ยเมืองแพนเป็นขุนนางเชื้อพระวงศ์กษัตริย์เวียงจันทน์ มีธิดาชื่อนางคำแว่นเป็นสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในปี พ.ศ. 2332 ท้าวเพี้ยเมืองแพนได้พาสมัครพรรคพวกประมาณ 330 คน อพยพมาอยู่ที่บ้านบึงบอน ขึ้นตรงต่อพระยานครราชสีมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2340 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็น “เมืองขอนแก่น” และยกฐานันดรศักดิ์ท้าวเพี้ยเมืองแพนขึ้นเป็น “พระนครศรีบริรักษ์” พ่อเมืองคนแรกของจังหวัดขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2525 ประชาชนชาวขอนแก่น ได้ร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และเคารพสักการะของชาวเมือง
- น้ำส่างสนามบิน: ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าศูนย์ราชการ ตรงข้ามโรงเรียนสนามบินด้านทิศเหนือ เป็นบ่อน้ำประวัติศาสตร์ที่มีมาก่อนที่เมืองขอนแก่นจะมีน้ำประปาบริโภค เป็นจุดรวมใจของชาวขอนแก่น เป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวขอนแก่นในอดีต และให้คุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แก่ประชาชนชาวขอนแก่นมาเป็นเวลายาวนาน
- ศาลหลักเมือง (เมืองเก่า) : เป็นศาลหลักเมืองหรือบือบ้านที่ท้าวเพี้ยเมืองแพนได้ตั้งไว้ ณ บริเวณใจกลางหมู่บ้าน เป็นเสาหลักเมืองขอนแก่นหลักแรกก่อนจะมีการย้ายเมืองอีก 5 ครั้ง ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณซอยกลางเมือง 21 ด้านข้างศูนย์กัลยาณมิตร
- พระธาตุขามแก่น: พระธาตุขามแก่นตั้งอยู่ที่วัดเจติยภูมิ บ้านขาม หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง เป็นปูชนียสถานของจังหวัดขอนแก่น บ้านขามเคยเป็นเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นเวลาประมาณ 2000 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 500
- บึงละเลิงหวาย อำเภอพล : เป็นบึงขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าละเลิงหวาย และเป็นที่กราบสักการะของคนไทยเชื้อสายจีน และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
- ปราสาทเปือยน้อย ตั้งอยู่ที่ อ.เปือยน้อย เป็นปราสาทศิลปะขอมโบราณผสมระหว่างศิลปะเขมรแบบบาปวนและแบบนครวัด สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในเขตภาคอีสานตอนบน
- นาหลังหมู่บ้านทุ่งน้อย ( นาเช้าสุข ) : เป็นทุ่งนาบริเวณกว้าง อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านทุ่งน้อย ตำบลลอมคอม อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม
แหล่งเรียนรู้
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 7 ขอนแก่น: ตั้งอยู่ที่ถนนกสิกรทุ่งสร้าง เป็นสถานที่ที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่เป็นของแถบอีสานตอนเหนือ โดยรอบอาคารพิพิธภัณฑ์จัดตั้งใบเสมาหินที่ได้จาก “เมืองฟ้าแดดสงยาง” ไว้เป็นจำนวนมาก
- หอศิลปวัฒนธรรมและอาคารศูนย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น: เป็นแหล่งแสดงศิลปะพื้นบ้านและเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ตั้งอยู่ที่ถนนมะลิวัลย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น: โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น ตั้งอยู่ ณ บริเวณชั้นล่างอาคารสวนสาธารณะ 200 ปี บึงแก่นนคร เทศบาลนครขอนแก่น ภายในโฮงมูนมันเมืองขอนแก่น ได้จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ในส่วนของนิทรรศการ และห้องจำหน่ายของที่ระลึก สำหรับการจัดนิทรรศการได้แบ่งออกเป็น 5 โซน โดยแบ่งตามเนื้อหาสาระในระบบการปกครอง วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจของชาวขอนแก่น นับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคสร้างบ้านแปงเมือง จวบจนเป็นเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน
- ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ประจำท้องถิ่น จังหวัดขอนแก่น: ตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 4 บ้านสามเหลี่ยม ถนนศรีมารัตน์ เป็นแหล่งศึกษาความรู้สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมไปด้วยข้อมูลพื้นฐาน ความรู้ หลักการทฤษฎีทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเป็นแหล่งรวบรวมอุปกรณ์เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และการแสดงถึงวิวัฒนาการในการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
- พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง: ตั้งอยู่ในเขตตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดและวิวัฒนาการของโลก ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาและกำเนิดและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งไดโนเสาร์ที่ขุดค้นพบในหุบเขาภูเวียง ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะกับสถานศึกษาและนักท่องเที่ยวทั่วไป เปิดให้บริการระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โทรศัพท์ 043 438-204
- บึงทุ่งพึงพืด: ศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เป็นสาขา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ทำหน้าที่รวบรวม พรรณไม้ประจำถิ่นและข้อมูลพืชของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์ทดลอง สาธิตและวิจัยพืชเศรษฐกิจและพืชทนเค็มตลอดจนที่ข้องเกี่ยวโดยร่วมมือกับนักวิจัยจากสถาบันในภูมิภาค ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่และภูมิทัศน์ ให้เป็นสถานที่ศึกษาฝึกอบรมของนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาในภูมิภาคและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติตลอดจนแหล่งสันทนาการและท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แก่ผู้เข้าเยี่ยมชม
- ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น: ตั้งอยู่ติดถนนมิตรภาพ ทางไปจังหวัดนครราชสีมา ประมาณกิโลเมตรที่ 44-45 ในเขตอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
สวนสาธารณะ
- บึงแก่นนคร : เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมือง เป็นบึงธรรมชาติคู่เมืองขอนแก่น ที่มีความกว้างถึง 600 ไร่ในฤดูฝนจะมีระดับน้ำปริ่มฝั่ง มีสถานที่ออกกำลังกาย โซนตกปลา ลานกีฬา แหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลา ตั้งอยู่ติดกับถนนรอบบึง
- บึงทุ่งสร้าง : ตั้งอยู่ที่ ถ.จอมพล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ทางไปบ้านดอนหญ้านาง) เป็นบึงน้ำและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเขตเทศบาลนครขอนแก่นคอยดูแล เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกายให้กับชาวเมือง มีการให้บริการต่างๆ เช่น สนามบาสเกตบอล ลานอเนกประสงค์ สระน้ำ และยังมีสวนนกขนาดใหญ่อยู่ภายในสวนสาธารณะด้วย บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่มีทั้งไม้ดอกไม้ประดับปลูกไว้อย่างสวยงาม ปัจจุบันบึงทุ่งสร้าง ทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยกำลังปรับปรุงสถานที่ให้เป็นสวนสัตว์ ไนท์ซาฟารี หรือ ซิตตี้ซู
- บึงหนองโคตร
- สวนประตูเมือง ขอนแก่น (สวนเรืองแสง)
งานประเพณีและงานเทศกาลท้องถิ่นที่สำคัญ
- งานประเพณีทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี
- งานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสานเทศกาลดอกคูน–เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5–15 เมษายน ของทุกปี
- งานประเพณีวันเข้าพรรษา โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันเข้าพรรษาของทุกปี
- งานประเพณีออกพรรษา ไต้ประทีปบูชา พุทธกตัญญู โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันออกพรรษาของทุกปี
- งานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน–10 ธันวาคม ของทุกปี
- งานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี